“โปรจีน” กับบทเรียนสมดุลชีวิต เมื่อเทียบกับนักกอล์ฟหลายๆ คน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเส้นทางความสำเร็จของ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นั้นเกิดขึ้นเร็วและต่อเนื่องอย่างน่าทึ่ง เมื่อตอนเป็นมือสมัครเล่นก็ทำสถิติเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดไม่ว่าชายหรือหญิงที่คว้าแชมป์ระดับอาชีพ จากรายการ Ladies European Thailand Championship ขณะอายุ 14 ปี 4 เดือน 19 วัน เมื่อปี 2017
เมื่อเทิร์นโปรและเข้าร่วม Ladies European Tour (LET) แบบเต็มตัวฤดูกาลแรกในปี 2021 ก็กวาดรางวัลใหญ่ปลายปีของทัวร์ ทั้งนักกอล์ฟยอดเยี่ยม Player of the Year, นักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยม Rookie of the Year และเงินรางวัลสูงสุดของทัวร์
พอคว้าตั๋วร่วม LPGA Tour ฤดูกาลแรกเมื่อปีที่แล้ว โปรจีนก็คว้าแชมป์ไปครอง 2 รายการ ก่อนคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม Rookie of the Year รวมถึงได้ขึ้นไปครองบัลลังก์มือ 1 โลกช่วงสั้นๆ 2 สัปดาห์
มาปีนี้ โปรจีนจบอันดับท็อป 10 ใน LPGA Tour ไปแล้ว 9 จาก 16 รายการที่ร่วมแข่งขัน นำเป็นอันดับ 1 ของทัวร์
กระนั้น การเว้นช่วงคว้าแชมป์เกิน 1 ปี รวมถึงฟอร์มที่วูบวาบในช่วงหลังๆ เมื่อพิจารณาจากมาตรฐานผลงานที่ผ่านๆ มาของโปรจีน ต้องถือว่าแผ่วลงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม โปรสาวชาวไทยวัย 20 ปี ก็เปิดใจว่าไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีหรือแย่ ก็มีสิ่งที่ได้เรียนรู้เสมอ
โปรจีนบอกว่า ปีที่แล้วมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นหลายอย่าง มาปีนี้ถึงจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่บ้าง แต่ก็ติดท็อป 10 หลายรายการ และเอาตัวรอดในทัวร์ได้ ซึ่งนั่นก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วในสายตาของตน
“เส้นทางกอล์ฟของจีนเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา ปีนี้ก็เป็นรถไฟเหาะตีลังกาด้วยเหมือนกัน สนุกดีค่ะ เพราะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างทั้งเรื่องชีวิตและกอล์ฟ” โปรจีนยอมรับว่า เมื่อประสบความสำเร็จต่อเนื่อง ก็สร้างแรงกดดันให้ตัวเองจากความคาดหวังต่างๆ ทางหนึ่งมาจากตัวเอง และอีกทางมาจากแฟนๆ กับนักกอล์ฟคนอื่นๆ รอบๆ ตัว อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ได้เรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลระหว่างกอล์ฟกับชีวิตส่วนตัว ไม่ไปโฟกัสที่กีฬากอล์ฟเพียงอย่างเดียว เพราะในวันที่เล่นไม่ดี มันก็แค่เกมกอล์ฟเกมหนึ่ง เป็นเกมกอล์ฟที่ไม่ดี ไม่ใช่ว่าชีวิตไม่ดีไปด้วย “คุณยังมีคนรอบตัวอีกมากมายที่รักคุณในแบบที่คุณเป็น ไม่ได้รักคุณที่ผลการแข่งขัน เราไม่จำเป็นต้องโฟกัสที่กอล์ฟตลอด 24 ชั่วโมง วันนึงคุณตื่นขึ้นมา ทานอาหารเช้า ออกไปเล่นกอล์ฟ และเมื่อกลับถึงบ้าน ก็ใช้เวลาอย่างมีความสุขที่บ้านจริงๆ” โปรจีนบอกว่า เมื่อออกจากสนามแล้ว ก็ต้องปล่อยวาง ไม่ไปคิดถึงกอล์ฟอีก คิดว่านั่นคือสิ่งจำเป็นสำหรับนักกอล์ฟ เพราะถ้าเอาแต่คิดเรื่องกอล์ฟตลอดเวลา ก็จะหมดไฟเอาง่ายๆ ส่วนเรื่องเกมของตัวเองนั้น แน่นอนว่าต้องพยายามทำงานหนักเพื่อยกระดับการเล่นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพราะวันนี้ในวัยนี้ เป้าหมายย่อมเป็นการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทั้งในและนอกสนาม หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ว่ากันไปทีละก้าวอย่างมั่นคงน่าจะดีกว่า
ขอบคุณข่าวสาร-บทสัมภาษณ์ จาก SCG Sports